ลูกากูฮีโร่-เชลซีลุ้นดับเบิ้ลแชมป์! 5 ประเด็นสิงห์บลูส์ทะลุชิงสโมสรโลก

ข่าวล่าสุด

ในที่สุด เชลซี ก็ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศฟุตบอลสโมสรโลกได้สำเร็จด้วยการเฉือนเอาชนะ อัล ฮิลาล ทีมจาก ซาอุดิอาระเบีย ไปแบบเฉียดฉิว 1-0 ในการฟาดแข้งเมื่อวันพุธที่ 9 ก.พ.

จากประตูโทนของ โรเมลู ลูกากู ส่งผลให้ สิงห์บลูส์ จะปะทะกับ พัลไมรัส ทีมแกร่งจากบราซิลในนัดชิงดำวันเสาร์นี้ซึ่งจะเป็นการดวลกันระหว่างแชมป์ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก กับ แชมป์ โคปาลิเบอร์ตาดอเรส ซึ่งเอาชนะ อัล อาห์ลี มาได้ในรอบรองชนะเลิศก่อนหน้านี้

แต่ก่อนจะถึงวันตัดสินแชมป์ซึ่งจะอุบัติขึ้นที่สนาม โมฮัมเหม็ด บิน ซาเยด สเตเดี้ยม ในเมือง อาบูดาบี เช่นกัน เรามาว่ากันถึง 5 ประเด็นในเกมที่ เชลซี คว่ำ อัล ฮิลาล 1-0 กันสักหน่อยดีกว่า

1.เชลซี เข้าชิงดำอีกโทรฟี่

อย่างที่รู้กันว่า สิงห์บลูส์ มีลุ้นคว้าแชมป์ในซีซั่นนี้หนึ่งรายการแล้วหลังรอหวดกับ ลิเวอร์พูล ในนัดชิงชนะเลิศถ้วย คาราบาวคัพ

จึงเท่ากับว่าเดือนแห่งความรักนี้ เศรษฐีลอนดอนมีโอกาสได้ชูโทรฟี่พร้อมกันทีเดียวสองใบ

อย่างไรก็ดี ไม่ใช่เรื่องง่ายสักเท่าไหร่ในเกมที่ เชลซี เอาชนะ อัล ฮิลาล 1-0 แม้จะคอนโทรลเกมได้ในครึ่งแรก และน่าจะนำห่าง 2-0

มันเป็นเพราะว่า อัล ฮิลาล กลับมาเล่นกันได้ดีขึ้นในครึ่งหลัง และเกือบทำประตูได้เช่นกันซึ่งทำให้กองเชียร์ สิงห์บลูส์ เป่าปากพร้อมถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังได้ยินเสียงนกหวีดยาวหนสุดท้าย

เท่ากับว่า เชลซี ซึ่งยังไม่เคยสัมผัสกับโทรฟี่สโมสรโลกกลายเป็นทีมจอมล่าถ้วยรางวัลที่น่ายำเกรงใช่เล่นเพราะนับตั้งแต่ซีซั่น 2016/17 ที่พวกเขาได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก ทีมจาก สแตมฟอร์ด บริดจ์ เพิ่มโทรฟี่ประดับตู้โชว์ได้ทั้งการคว้าแชมป์ เอฟเอคัพ , แชมเปี้ยนส์ลีก , ยูโรปาลีก และ ซูเปอร์คัพ

2.โรเมลู ลูกากู คลายความกดดัน

ในเกมกับ อัล ฮิลาล ช่วงครึ่งชั่วโมงแรก เชลซี เจอกับความยากลำบากในการพยายามสอยตาข่ายทีมคู่แข่ง

อย่างไรก็ดี ทีมจาก พรีเมียร์ลีก มาได้นักเตะค่าตัวแพงที่สุดของสโมสรสอยตาข่ายพาทีมออกนำได้ และเป็นประตูที่เก้าในซีซั่นนี้ของดาวยิงทีมชาติเบลเยี่ยม

ก่อนหน้านี้ เจ้าของค่าตัวอันเป็นสถิติของสโมสร 97.5 ล้านปอนด์คลำเป้าให้ทีมดังแห่งกรุงลอนดอนแค่แปดลูกเท่านั้นหลังย้ายจาก อินเตอร์ มิลาน กลับสู่บ้านหลังเก่าเป็นหนที่สองเมื่อเดือนส.ค.จนทำให้ถูกตั้งคำถามถึงความคุ้มค่า

ทว่าสุดท้าย สตาร์ผิวสีก็ไม่ทำให้พรรคพวกต้องผิดหวังด้วยการพาทีมออกนำในครึ่งแรกของเกมสโมสรโลกรอบตัดเชือกโดยฉวยความผิดพลาดจากคู่แข่งได้สำเร็จ

ด้วยเหตุนี้ ลูกากู จึงสมควรได้รับการยกย่องแม้หลังจากคลำเป้าได้เขาอาจไม่มีบทบาทสักเท่าไหร่ แต่ก็เป็นเพราะเพื่อนร่วมทีมไม่สามารถสร้างโอกาสป้อนให้เขาได้เช่นกัน

3. ไม่มี เอดูอาร์ เมนดี้ ไม่มีปัญหา

แม้ โธมัส ทูเคิ่ล จะเดินทางมาคุมทีมไม่ได้เนื่องจากติดเชื้อโควิด แต่ผู้จัดการทีมชาวเยอรมันกำหนดให้ เกปา อาร์ริซาบาลาก้า ได้เฝ้าเสาในฐานะผู้รักษาประตูตัวจริง

นับตั้งแต่ เอดูอาร์ เมนดี้ ผละไปจากสโมสร และพา เซเนกัล คว้าแชมป์ แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ ได้สำเร็จ นายด่านตาข่ายชาวสแปนิชสร้างผลงานกลับมาเฝ้าตาข่ายได้อย่างเหนียวหนึบอีกคำรบ

และสมควรแล้วที่เขาจะได้ทำหน้าที่ต่อในรายการสโมสรโลกแม้ เมนดี้ จะบินจาก แคเมอรูน มาสมบทกับทีมพร้อมลงเล่นเกมในรอบตัดเชือกกับ อัล ฮิลาล ก็ตาม

อย่างไรก็ดี หลังจาก เชลซี เข้ารอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ เมนดี้ ก็มีโอกาสถูกเลือกลงสนามเช่นกันในฐานะประตูมือหนึ่งของสโมสร หลังจากได้พักเหนื่อยจากการเดินทางไกลเรียบร้อยแล้ว

ต่อประเด็นนี้ ซอลท์ เลิฟ ผู้ช่วยโค้ชของ เชลซี เผยกับสื่อว่าต้องรอให้ ทูเคิ่ล ตัดสินใจอีกครั้ง แต่อย่างไรเสีย อาร์ริซาบาลาก้า เหมาะที่จะได้ลงสนามต่อหลังจากเขามีส่วนร่วมกับทีมมาตั้งแต่แรก

4.ยังจำ โอเดี้ยน อิกาโล่ กันได้มั้ย?

สำหรับคอบอล พรีเมียร์ลีก น่าจะจำกองหน้าผิวสีของ อัล ฮิลาล ก้นได้ดี

ดาวยิงไนจีเรียวัย 32 ปีเคยฝากผลงานตะบันประตูในลีกอิงลิชให้ วัตฟอร์ด ได้ 15 ลูกในซีซั่น 2015/16 และเคยย้ายมาเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้สัญญายืมตัว

กระทั่งเมื่อเดือนก่อนนี่เองที่ อิกาโล่ เข้ามาร่วมทีม อัล ฮิลาล โดยเจ้าตัวเผยกับสื่อว่านับเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้ค้าแข้งให้กับทีมที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในลีก ซาอุดิอาระเบีย

หลังอำลา โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อ 13 เดือนก่อน อิกาโล่ สร้างชื่อต่อกับ อัล ชาบับ ทีมลูกหนังของ ซาอุดิอาระเบีย เช่นกันด้วยการคลำเป้าได้ 18 ประตู และในเกมกับ เชลซี เขามีโอกาสเหมาะที่จะเช็คบิลได้สองหนในครึ่งหลังด้วย แต่ก็พลาดไปจนได้

5.แชมป์นี้ที่รอคอย

ก่อนยกพลบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาฟาดแข้งฟุตบอลรายการนี้ เชลซี ถูกมองว่าไม่คิดจริงจังอะไรเนื่องจากให้ความสำคัญกับถ้วยใบอื่นมากกว่า

ยิ่งไปกว่านั้น ศึกฟุตบอลสโมสรโลกยังเป็นรายการที่มีอายุไม่มากนักแค่ 22 ปีเท่านั้น แต่ความจริงคือมันเป็นถ้วยแชมป์ใบเดียวที่ สิงห์บลูส์ ยังไม่เคยได้สัมผัส

เท่าที่ผ่านมา ทีมจากลอนดอนได้แชมป์มาครบทุกใบแล้วไม่ว่าจะเป็น พรีเมียร์ลีก , แชมเปี้ยนส์ลีก , เอฟเอคัพ , ลีกคัพ , คัพวินเนอร์สคัพ , ซูเปอร์คัพ และ คอมมิวนิตี้ ชิลด์

จะขาดก็แต่แชมป์สโมสรโลกนี่แหละที่ เชลซี ได้ชื่อว่าเป็นแชมป์ยุโรปรายเดียวที่ไม่เคยได้ชูโทรฟี่ใบนี้ และเป็นทีมแชมป์ยุโรปรายล่าสุดที่ปราชัยในนัดชิงชนะเลิศเมื่อเก้าปีก่อน

ไล่รายชื่อกันให้ดูเลยว่าทั้ง ลิเวอร์พูล , แมนฯ ยูไนเต็ด , เอซี มิลาน , อินเตอร์ มิลาน , บาเยิร์น มิวนิค , บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด ล้วนได้แชมป์สโมสรโลกประดับบารมีด้วยกันทั้งนั้น ฉะนั้นแล้วมันจึงเป็นโอกาสอีกหนของ เชลซี ที่จะเติมเต็มความสำเร็จให้กับตัวเอง

อ้างอิง
https://www.siamsport.co.th/football